ยาแก้ปวด ฟัน เลือกช้อปสินค้าใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ที่คุณชื่นชอบ รวมทั้งหมดไว้ในที่เดียว ซื้อและขายสินค้าหลากหลายรายการบนตลาดออนไลน์ที่เชื่อถือได้และใหญ่สุดในไทย คุณภาพเจ๋ง ราคาคุ้มค่า เราขอแนะนำ ยาแก้ปวดฟัน สินค้าออนไลน์ ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง ยาแก้ปวดฟัน ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอน ยาแก้ปวดฟันรากฟัน จัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง
รู้จักกับ ยาแก้ปวดฟัน พร้อมวิธีเลือกใช้อย่างถูกต้อง ยาแก้ปวด ฟัน
ยาแก้ปวด ฟัน เมื่อมีอาการเหงือกบวม เมื่อมีอาการเหงือกบวม เหงือกอักเสบ หรือปวดฟันมาก ๆ การไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสมย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถไปพบทันตแพทย์ได้ทันที ยาแก้ปวดฟันเฉียบพลัน หรือเมื่อไปพบทันตแพทย์แล้วก็ต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจหาสาเหตุ ซึ่งบางคนอาจไม่สามารถทนกับอาการปวดที่เกิดขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้การใช้ ยาแก้ปวดฟัน เหงือกบวม เพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การรับประทานยาแก้ปวดฟันมีความสำคัญอย่างไร?
ปกติแล้ว การที่เราไปหาทันตแพทย์หลังจากที่มีอาการปวดฟันรุนแรง หรือเหงือกบวม จะไม่สามารถรักษาได้ทันที เพราะจะต้องวิเคราะห์หาสาเหตุก่อน เพื่อที่จะได้รักษาอย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ โดยอาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฟันผุ ฟันแตก เหงือกอักเสบ รากฟันอักเสบ หรือติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้นอย่างไรก็ตาม การรักษาโรคเหงือกจะต้องตรวจหาสาเหตุ อาจใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ในคนไข้ที่มีอาการปวดฟันมาก ๆ อาจไม่สามารถทนได้ จนทำให้ตรวจอาการได้ยากขึ้น ทันตแพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดฟัน เหงือกบวม เพื่อบรรเทาอาการชั่วคราวก่อน ซึ่งจะช่วยให้คนไข้รู้สึกดีขึ้น และสามารถทนต่อกระบวนการรักษาได้นอกจากนี้การใช้ยาแก้อาการปวดฟันยังมีส่วนช่วยในคนที่มีอาการปวดฟันมาก ๆ แต่ยังไม่สามารถมาพบทันตแพทย์ทันทีด้วย โดยจะช่วยให้สามารถรับมือกับอาการปวดที่เกิดขึ้นได้ชั่วคราวจนกว่าจะมีเวลาไปพบทันตแพทย์นั่นเอง
ยาแก้ปวดฟันมีกี่ประเภท?
ยาที่ใช้บรรเทาอาการปวดฟันส่วนใหญ่จะสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven), วัตสัน (Watson), บู๊ทส์ (Boots) หรือห้างสรรพสินค้า โดยจะมีทั้งยาที่ใช้บรรเทาอาการปวดไม่รุนแรงไปจนถึงปวดรุนแรงมาก ซึ่งผู้ที่มีอาการปวดฟันควรปรึกษาทันตแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา ไม่ควรซื้อยามาใช้ด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เกิดการใช้ยาผิดประเภท หรือเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
ยาพาราเซตามอล (Paracetamol)
ยาพาราเซตามอล เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ใช้ลดไข้ และบรรเทาอาการปวดทั่วไปในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดฟัน ปวดเมื่อยตัวจากไข้หวัด หรือปวดประจำเดือน โดยขนาดการใช้ยาจะอยู่ที่ 10 – 15 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ต่อ 1 ครั้ง ทั้งนี้ไม่ควรรับประทานเกินขนาดเพราะอาจทำให้เกิดพิษร้ายแรงต่อตับได้สำหรับใครที่ไม่อยากคำนวณขนาดยา สามารถรับประทานยาพาราเซตามอลตามนี้ได้ในผู้ใหญ่ : รับประทานยาครั้งละ 1 – 2 เม็ด ทุก 4 – 6 ชั่วโมง โดยไม่ควรรับประทานยาเกิน 8 เม็ดต่อวัน หรือ 4 กรัม/วัน และไม่ควรรับประทานยาต่อเนื่องเกิน 5 วันในเด็ก ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อย หรือผู้ที่เป็นโรคตับ : จะต้องปรับขนาดยาให้เหมาะสมกับตนเอง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยา
ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (Nonsteroidal anti-inflammatory drug) หรือ “NSAIDs”
ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือเอ็นเสด (NSAIDs) มีหลายชนิด เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), พอนสแตน (Ponstan), ไพร็อกซิแคม (Piroxicam) หรือ (Diclofenac) เป็นต้น เป็นยาที่นำมาใช้บรรเทาอาการปวดที่มีระดับปานกลางไปจนถึงมาก โดยบางชนิดสามารถใช้เป็นยาลดไข้ได้ด้วยยาในกลุ่มนี้นั้น จะออกฤทธิ์โดยการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไซโคลออกซิจีเนส (Cyclooxygenase) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ค็อกซ์ (COX) โดยจะมีทั้งค็อกซ์ – 1 (COX-1) และค็อกซ์ – 2 (COX-2) ซึ่งเอนไซม์ค็อกซ์ – 2 จะทำหน้าที่สร้างพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ที่ทำให้เกิดอาการปวด การรับประทานยาเอ็นเสดเพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ค็อกซ์ – 2 จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้นั่นเองอย่างไรก็ตาม ยาเอ็นเสดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร และมีผลข้างเคียงที่อันตรายอย่างการลดประสิทธิภาพการทำงานของไต โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่อาจทำให้ไตเสื่อมจนถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาด้วยการฟอกไต จึงไม่สามารถซื้อยามารับประทานได้เองเหมือนกับยาพาราเซตามอล และจำเป็นที่จะต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีการใช้ยาที่ถูกต้องและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนทุกครั้ง
ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole)
ยาเมโทรนิดาโซล เป็นยาปฏิชีวนะที่สามารถใช้ต้านเชื้อแบคทีเรียในร่างกายได้ สามารถนำมาใช้รักษาโรคจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้หลากหลายชนิด ในผู้ที่มีอาการปวดฟันและเหงือกบวมจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ไม่ต้องการออกซิเจน ทันตแพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาตัวนี้เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย โดยจะรับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์สั่งอย่างไรก็ตาม ยาเมโทรนิดาโซลอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร และอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้ จึงจำเป็นที่จะต้องรับประทานยาตามที่ทันตแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และไม่ควรซื้อยามารับประทานด้วยตนเอง